อ า ห า ร
|
|
|
สารอาหารทื่ต้องการ
1.วิตามินและเกลือแร่
ในกรณีที่เป็นโรคเกี่ยวกับตับ หรือตับอ่อนนั้น มักจะย่อยอาหารประเภทไขมันไม่ได้
ดังนั้น ต้องเพิ่มวิตามิน ที่ละลายในไขมันให้ คือวิตามิน เอ ดี อี
เค ส่วนวิตามินบีมักจะสังเคราะห์จากแบคทีเรียในลำไส้ ถ้ามีการ ให้ยาปฏิชีวนะ
ก็จะไปทำลายแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้สังเคราะห์วิตามินบีไม่ได้ จึงต้องให้เสริม
และในราย ที่เป็นไข้ ขาดอาหาร หรือเป็นโรคไตเรื้อรัง ก็ควรได้รับวิตามินบีเสริมด้วย
สรุปแล้ว ถ้าสุนัขได้รับสารอาหาร ที่สมดุลย์แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเสริมอะไรเพิ่มเติมอีก
|
|
2.
กระดูก
กระดูก ช่วยให้สุนัขได้บริหารฟันและขากรรไกร ทำความสะอาดฟัน ขจัดคราบหินปูน
กระดูกมีสารอาหาร หลายอย่าง โดยเฉพาะแคลเซียม และฟอสฟอรัส ข้อเสียของการให้กระดูก คือ ทำให้เกิดการอุดตันทางเดิน อาหาร และถ้ากินในปริมาณมาก
ก็จะทำให้ท้องผูกได้ เพราะแคลเซียมคาร์บอเนต จะไปขัดขวางการดูดน้ำ กลับของลำไส้ใหญ่
ไม่ควรให้สุนัขกินกระดูกเกินกว่า 10%ของปริมาณอาหาร และไม่ควรให้กินกระดูกไก่
ก้างปลา หรือซี่โครงต่าง ๆ เพราะมันจะแตกเป็นชิ้นเล็กๆไประคายเคืองหรืออุดตันทางเดินอาหารได้ |
3.นม
นม อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันและเกลือแร่ มีรสชาติน่ากิน แต่ก็อาจจทำให้สุนัขท้องเสียได้ |
ปริมาณอาหารที่ต้องการ
|
อายุ |
จำนวนมื้อ/วัน |
6 สัปดาห์ (หย่านม) |
4 |
2-3 เดือน |
4 |
3-6 เดือน |
3 |
6-9 เดือน |
2 |
9 เดือนขึ้นไป |
1 |
ช่วงตั้งท้องและให้นม |
2-3 |
|
- ถ้าให้อาหารมากเกินไปก็จะทำให้สุนัขอ้วน โดยมากสุนัขที่โตแล้วมักจะให้อาหารเพียงมื้อเดียวเท่านั้น
เมื่อสุนัขอ้วนก็จะเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ เช่น โรคกระดูกและข้อเสื่อม
เบาหวาน โรคผิวหนัง โรคปอด โรคหัวใจ โรคตับ และโรคในระบบสืบพันธุ์
- ถ้าให้อาหารไม่เพียงพอ
จะทำให้สุนัขขาดอาหาร ผอม น้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าสุนัขไม่แข็งแรง
ที่สุนัขได้รับอาหารไม่เพียงพอ อาจเกิดจากการเบื่ออาหาร แย่งตัวอื่นกินไม่ทัน
หรือเจ้าของไม่ได้ปรับปริมาณอาหาร ตามความต้องการของสุนัข หรืออาหารเพิ่งออกจากตู้เย็นโดยไม่ได้ทิ้งให้หายเย็นก่อน
อาหารที่เย็นมักไม่น่ากิ
|
|