Herding Group ในอดีตมนุษย์มักล่าสัตว์มากักขังไว้ หรือเลี้ยงปศุสัตว์ไว้เพื่อเป็นเสบียงอาหาร เพื่อเป็นการป้องกัน ไม่ให้สัตว์เหล่านั้น หนีหรือถูกฆ่า โดยสัตว์ชนิดอื่น มนุษย์จึงเริ่มเลี้ยงสุนัขไว้เพื่อเฝ้าระแวดระวังสัตว์เหล่านั้น บรรพบุรุษของสุนัขในกลุ่มนี้เชื่อกันว่า มีนิสัยที่ดุร้าย มีสัญชาตญาณความ เป็นเจ้าของสูง สุนัขในสมัยนั้น จะใส่ปลอกคอที่เป็นหนาม เพื่อป้องกันสัตว์ป่า ทำร้ายบริเวณคอของมัน จากจุดเริ่มต้นดังกล่าว ได้มีการพัฒนาเพื่อคัดเลือก สายพันธุ์สุนัขให้ตรงกับการใช้งาน กล่าวคือในภูมิประเทศที่หนาวสุนัขเฝ้า ฝูงแกะจำเป็นต้องตัวใหญ่ และมีขนที่หนาหลายชั้น เพื่อปกป้องตัวมันเอง จากความหนาว รวมทั้งป้องกันการกัดถึงตัวได้ของศัตรู สำหรับฟาร์มปศุสัตว์ ที่ใหญ่กว้างขวางจำเป็นต้องมีสุนัขที่วิ่งเร็ว คล่องแคล่วสามารถที่จะติดตาม แกะหลงกลับมาฝูงและเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายเป็นอย่างดี

Old English Sheepdog

ในบรรดาสุนัขเลี้ยงแกะทั้งหมดในประเทศอังกฤษ Old English Sheepdog เป็นพันธุ์ที่เป็นที่นิยม และรักใคร่ของเด็ก ๆ ทั่วโลกเนื่องจากขนที่ปุกปุยและฟูอย่างน่านุ่มมือ เป็นพันธุ์ที่มีประวัติยาวนานมากว่า 150 ปี จากดินแดนส่วนตะวันตกของประเทศอังกฤษ ซึ่งได้พัฒนาพันธุ์นี้เพื่อการใช้งานในการต้อน ฝูงแกะและติดตามนำตัวที่หลงกลับมายังฝูง ในสมัยแรก ๆ พันธุ์นี้เป็นที่รู้จักกันในนาม Bob-tail ในช่วงระยะที่นิยมนำขนของสุนัขพันธุ์นี้ไปทอเป็นผ้าแต่ก็เสื่อมความนิยมลง ถึงแม้สุนัขพันธุ์นี้ จะมีลักษณะที่ปุกปุยน่าเอ็นดูแต่เค้าก็เป็นสุนัขที่ขยันขันแข็งยิ่งนัก


การดูแลและฝึกลูกสุนัข
ลูกสุนัขอายุ 2-3 วันหลังเกิดจะถูกตัดหาง ถึงแม้ว่าพันธุ์จะโตเต็มวัยเมื่ออายุประมาณ 2 ปี การฝึกสามารถเริ่มได้เมื่อสุนัขอายุยังน้อย (ประมาณ 3-4 เดือน)


การดูแลและการออกกำลังกาย
สำหรับสุนัขที่จะเข้าประกวดนั้นความยาวและลักษณะของขนมีความสำคัญมาก แต่สำหรับการเลี้ยงธรรมดานั้นหากมีการตัดเล็มขนจะดีต่อสุขภาพอนามัยมาก เนื่องจากภายใต้ขนที่รุงรังนั้นเป็นที่เก็บฝุ่นละอองอย่างดี ควรอาบน้ำทุกสัปดาห์หรือทุกครั้งที่สุนัขดูสกปรก แล้วจึงเป่าขนให้แห้งและหวีขนซึ่งควรทำการหวีและสางขนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง การพาวิ่งเพื่อออกกำลังกายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ หากทำได้วันละ 2 ครั้งยิ่งดี



Collie

เป็นพันธุ์ซึ่งผู้พบเห็นหลงรัก เนื่องจากความเฉลียวฉลา ดและความนุ่มนวลของเค้า พันธุ์นี้เราจะรู้จักกันดี เนื่องจากมีดาราสุนัขตัวหนึ่งซึ่งเป็นดารายอดนิยมชื่อ แลสซี่ เป็นสุนัขที่เฉลียวฉลาดมาก นานกว่าศตวรรษ ที่พันธุ์นี้ถูกเรียกว่า Scotch Collie เนื่องจากถูกใช้งานเป็นสุนัขเลี้ยงแกะ ณ ประเทศ Scotland เชื่อกันว่า เค้าได้ถูกพามายังประเทศสหรัฐอเมริกาพร้อม ๆ กับชาว Pilgrims ซึ่งอพยพมาตั้งรกราก ในดินแดนส่วนเหนือ เมื่อสมัยการก่อตั้งประเทศช่วงแรก American Kennel Club (AKC) ได้ขึ้นทะเบียนประวัติพันธุ์ในตั้งแต่ค.ศ. 1886 โดยใช้ชื่อพันธุ์ Collie ในขณะที่ United Kennel Club (UKC) ได้ขึ้นทะเบียนเป็นชื่อ Scotch Collie เมื่อค.ศ.1920

ลักษณะประจำพันธุ์
Collie เป็นสุนัขพันธุ์ที่ขึ้นชื่อในด้านความสง่า สวยงาม เนื่องจาก ส่วนหน้าที่ยาวได้รูป ส่วนหัวแบน ลาดเรียวลงมาด้านบริเวณจมูก ใบหูสองข้างตกลงส่วนปลายของใบหู ตาสองข้างสีเข้ม จมูกสีดำ เค้ารูปร่างดูแข็งแรง ส่วนอกลึกยาวและเรียบ ส่วนหางได้ส่วนอย่างลงตัว ตัวผู้จะสูงประมาณ 23-26 นิ้วหนักประมาณ 59-75 ปอนด์ ตัวเมียจะสูงประมาณ 22-24 นิ้วหนักประมาณ 51-66 ปอนด์ ขนส่วนนอกลำตัวของ Rough Collie จะยาวและไม่นุ่มมือแต่จะดูฟู ในขณะที่ขนด้านในจะนิ่มและหนา ส่วนขนบริเวณลำคอจะหนาฟูทำให้ดูสง่า Smooth Collie มีขนที่เรียบสั้นติดลำตัว มักพบว่า collie มีขนสีคือขาว ดำ น้ำตามซึ่งมักจะพบปนสามสีในตัวเดียวกัน

Collie มีลักษณะนิสัยที่เรียบร้อย มักจะขี้อาย วิตกกังวล แต่เฉลียวฉลาดมาก เชื่อฟัง และเป็นมิตรได้ง่าย ดังนั้น จึงเป็นพันธุ์ที่ดีมากสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก จากนิสัยที่เป็นมิตรได้ง่ายนั้น ทำให้พันธุ์นี้ไม่เป็นที่นิยม ในการใช้งานเป็น guard dogs เนื่องจากมีแนวโน้มจะผูกมิตรมากกว่าการทำร้ายศัตรู

การดูแลและฝึกลูกสุนัข
ครอกหนึ่งมักจะได้ลูกสุนัขประมาณ 6-10 ตัว ลักษณะสีขนจะเข้มขึ้นตามอายุ ถึงแม้ว่าสุนัขพันธุ์ควรได้รับการเลี้ยงดูนอกบ้านแต่การฝึกเลี้ยงในบ้านก็เป็นสิ่งที่ทำได้เช่นกัน มักจะพบว่าบางตัวติดนิสัยในการหอนแต่ก็มักจะฝึกให้หยุดได้


การดูแลและการออกกำลังกาย
สำหรับ Rough Collie ควรให้เวลาเค้าอย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้ง แปรงขนให้เค้าแต่ละครั้ง ควรแปรงติดต่อกันนานประมาณครึ่งชั่วโมง (สำหรับ Smooth Collie ควรประมาณอย่างน้อย 15 นาที) พันธุ์มักจะผลัดขนเป็นฤดูกาลดังนั้นก็อย่าประหลาดใจถ้าพบว่าสุนัขตัวโปรดมีการขนร่วงติดต่อกันเป็นบางช่วง นอกจากนี้การพาเดินหรือวิ่งในสนามก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ควรทำอยู่เป็นประจำเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงตลอดเวลา


Welsh Corgi Pembroke

แต่เดิมนั้นเป็นสุนัขที่รู้จักกันว่าเป็นพันธุ์ที่ทำงานเลี้ยงฝูงโคอย่างขยันขันแข็ง ต่อมา เมื่อเป็นสุนัขโปรดของ สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 จึงทำให้เป็นที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก

หากตามประวัติกันแล้วสามารถพบพันธุ์นี้ได้ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 12 ได้ถูกนำมาพัฒนาสายพันธุ์ที่เมือง Pembrokeshire ใน Wales ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสายพันธุ์ ถึงแม้จุดกำเนิดจะมาจากคนละสายพันธุ์ (ระหว่างพันธุ์ Welsh Corgi Pembroke กับ Welsh Corgi Cardigan) แต่ทั้งสองสายก็เป็นที่นิยม และรักใคร่ของราชวงศ์อังกฤษมาโดยตลอด ดังจะเห็นจากประวัติศาสตร์สมัยพระเจ้าจอร์จที่ 6 ได้พระราชทาน สุนัขพันธุ์นี้ให้แก่พระราชธิดาในค.ศ.1936

ลักษณะประจำพันธุ์
ส่วนสูงซึ่งน้อยนักกับขาหลังซึ่งสั้นทำให้ Corgi แลดูน่ารักน่าเอ็นดู ส่วนหัวซึ่งมีลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอก แต่กะโหลกจะออกรีกว่า ขนบริเวณใบหน้าตั้งแต่กลางกะโหลกลงมาระหว่างตาเป็นเส้นตรงถึงจมูกมักจะมีสีขาว ใบหูขนาดกลางตั้งตรง ตาเข้มใส จมูกดำเค้า หางสั้นมาก ลักษณะเส้นขนจะยาวปานกลาง เหยียดตรงแข็งสีจะมีตั้งแต่ สีชา น้ำตาลอ่อน น้ำตาลแดงจนกระทั่งดำ ลำตัวส่วนล่างมักเป็นสีขาว ส่วนการแซมของสีขาวในบริเวณลำตัวส่วนหลังนั้น มักพบน้อยและเป็นลักษณะที่มักถูกเรียกว่า Whitelie เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องประจำพันธุ์หากจะส่งสุนัขเข้าประกวด ทั้งตัวผู้และตัวเมียมักจะสูงไม่เกิน 12 นิ้วหนักประมาณ 24-30 ปอนด์ ในขณะที่ตัวเมียจะหนักประมาณ 22-28 ปอนด์

Welsh Corgi Pembroke เป็นพันธุ์ที่กระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา มักไม่อยู่สุข เป็นมิตรได้ง่าย สำหรับการเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ควรเลี้ยงทั้งตัวผู้และตัวเมียไว้ด้วยกันเนื่องจากเป็นพันธุ์ที่ต้องการเพื่อนอยู่ตลอดเวลา

การดูแลและฝึกลูกสุนัข
โดยปกติแม่สุนัขมักออกลูกประมาณ 5-8 ตัวต่อครอก ลูกสุนัขจะโตเต็มที่ที่อายุ 12-15 เดือน หากคิดจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะนำมาเลี้ยงตั้งแต่เค้ายังอายุน้อย (ประมาณไม่เกิน 2-3 เดือน) เพื่อฝึกฝนให้เค้าคุ้นเคยกับเจ้าของเนื่องจากเค้าจะเป็นสุนัขที่ขี้เหงามากจึงควรหาเลี้ยงเป็นคู่จะดีกว่า


การดูแลและการออกกำลังกาย
การดูแลขนทำได้ง่ายคือ ควรอาบน้ำอาทิตย์ละครั้ง แปรงขนด้วยแปรงที่มีปุ่มนวดหนังเพียงอาทิตย์ละ 2 ครั้ง และพาออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้งเป็นใช้ได้


Australian Cattle Dog
ออสเตรเลียน แคทเทิล ด็อก หรือ ออสเตรเลียน ควีนแลนด์ เป็นสุนัขที่ได้ชื่อว่า อายุยืนที่สุดในโลก ( มากที่สุด 29 ปี ) และเป็นสุนัขที่มีความกล้าหาญ มุ่งมั่น แต่เดิมใช้ต้อนฝูงโค สามารถคุมฝูงโคได้ดี โดยไม่ต้องส่งเสียงเห่าหรือวิ่งพล่านรอบตัวโค

เป็นสุนัขที่มีสายพันธุ์เกี่ยวเนื่องกับ สุนัขดิงโก มีถิ่นกำเนิดในอยู่ในประเทศออสเตรเลีย เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1800

ลักษณะประจำพันธุ์
สุนัขพันธุ์นี้ จะมีไปหูใหญ่ทรงสามเหลี่ยมตั้งขึ้น ช่วงลำคอหนา ตลอดทั้งลำตัว โดยเฉพาะส่วนหัว จะมีขนสีขาว ๆ ขึ้นแซมประปราย หางยาวไม่ถึงข้อขา ลักษณะหางจะตกโค้งเล็กน้อย


German Shepherd

เยอรมัน เชพเพิร์ด หรือ ดอยต์เชอ เชฟเฟอร์ฮุนด์ หรืออีกชื่อที่นิยมเรียกกัน คือ อัลเซเซียน นั่นเอง สุนัขพันธุ์นี้ถือว่าเป็นสุนัขที่คนนิยมเลี้ยงกันมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะมีความฉลาด สอนง่าย และกระตือรือร้นตลอดเวลา แต่เดิมคนใช้สุนัขพันธุ์นี้ไว้ต้อนแกะ แต่ปัจจุบันได้นำมาพัฒนาเพื่อใช้งานหลายด้าน เนื่องจากฉลาดในการรับรู้สิ่งต่างๆ

เป็นสุนัขที่มีมีถิ่นกำเนิดในอยู่ในประเทศเยอรมัน เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1800

ลักษณะประจำพันธุ์
สุนัขพันธุ์นี้มีลำตัวค่อนข้างยาว มีช่วงปากที่ยาวเกินครึ่งของความยาวไปหน้า ลักษณะหูตั้ง ปลายหูเรียวเล็ก บริเวณใบหน้า ลงมาถึงจมูก จะมีสีขนที่เข้ม ขาหลังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ลักษณะหางจะตกและมีขนหนา