Non-Sporting Group ได้แก่สุนัขอื่น ๆ นอกเหนือกลุ่มข้างต้นหรือสุนัขที่ใช้งานพิเศษอื่นๆ เช่น สุนัขละครสัตว์ สุนัขในกลุ่มนี้มีลักษณะน่ารัก มีความจำดีมาก

Poodle

พันธุ์นี้เป็น 3 ชนิดด้วยกัน คือ Standard Minature และ Toy ต้นกำเนิดของ Standard Poodle นั้นอยู่ที่ประเทศเยอรมัน โดยถูกใช้เป็นสุนัขล่านกน้ำ สมัยนั้น ลัษณะการไว้ขนของสุนัขก็เป็นเช่นเดียวกับใน ปัจจุบัน เนื่องจาก ขนที่หยิกหนานั้นจะช่วยในการพยุงตัวเค้าให้ลอยน้ำได้ดียิ่งขึ้น ในช่วงของศตวรรษที่ 19 ประเทศฝรั่งเศสได้ใช้ Standard Poodle เพื่อเป็นสุนัขละครสัตว์ด้วย นอกเหนือจากการล่านกน้ำ ส่วน Minature และ Toy Poodle ได้ถูกเพาะ และพัฒนาพันธุ์ในประเทศ อังกฤษ ช่วงศตวรรษที่ 18 ในสมัยพระนางเจ้าแอนด์ โดยใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์ สุนัขเพื่อการแสดงบันเทิง และเป็นเพื่อน คำว่า Poodle มาจากภาษาเยอรมันว่า Pudelin ซึ่งมาความว่าการกระจายในน้ำ ถึงแม้ว่าต้นกำเนิดของ Standard Poodle จะอยู่ที่ประเทศเยอรมันแต่โดยทั่วไปมักจะกล่าวรวม ๆ ว่าเป็นสุนัขฝรั่งเศส

ในบรรดาพันธุ์สุนัขทั้งหลาย พันธุ์ poodle ที่ถูกเพาะมาอย่างดี ถือเป็นพันธุ์ที่เฉลียวฉลาด และมีความรับผิดชอบสูงที่สุด poodle ทั้ง 3 ชนิดเป็นสุนัขที่ร่าเริง ขี้เล่น ช่างประจบเอาใจ มีพลังงานเหลือล้น มีสเน่ห์ และต้องการเป็นที่พอใจของเจ้าของตลอดเวลา ี่เมื่อเลี้ยงแล้ว เค้าจะมีความผูกพันธุ์สูงมากกับเจ้าของ เรียกได้ว่า รักถวายชีวิตทีเดียว ดังนั้น การเลี้ยงเค้าไม่ได้ตลอดไป หรือต้องให้เค้าไปอยู่กับผู้อื่นเมื่อเค้าโตขึ้น จะเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจเค้ามาก และอาจนำพา มาสู่พฤติกรรมที่ผิดปกติได้

เค้าจะชอบที่จะทำงานมีส่วนร่วมกับเจ้าของ และเข้ากันได้ดีกับสัตว์ชนิดอื่น Minature และ Toy Poodle จะเข้ากันกับคนแปลกหน้า และเด็กได้ดีกว่า Standard Poodle แต่อย่างไรก็ตาม ลักษณะของการกัดคนแปลกหน้ามักจะพบใน Minature และ Toy ได้มากกว่า

ลักษณะที่เด่นมากของสุนัขพันธุ์นี้คือความเชื่อฟังเจ้าของ ดังนั้น การเลี้ยงด ูหรือการฝึกฝนควรจะเริ่มตั้งแต่ เค้ายังอายุน้อย อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่ต้องทราบเกี่ยวกับพันธุ์นี้คือ เค้าจะเป็นนักเห่าตัวยง (ส่วนมาก เห่าอย่างเดียวไม่กัด) แถมเสียงแหลมเล็กอีกด้วย การเลี้ยงพันธุ์นี้เหมาะสำหรับครอบครัวซึ่งมีที่จำกัด เค้าสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นอย่างดีในห้องอพาตเมนท์

ลักษณะประจำพันธุ์
สิ่งที่เป็นลักษณะเด่นของพันธุ์นี้ คือ ส่วนของขนซึ่งหยิกเป็นลอนหนานุ่ม หากได้รับการแปรง และเอาใจใส่เป็นอย่างด ีจะยิ่งนุ่มสวยเป็นเงางาม อย่าเข้าใจผิดว่าเค้ามีขนที่ยาวหนาแล้วนั้น จะไม่เหมาะกับการเลี้ยงในบ้านนะ เพราะลักษณะที่พิเศษอีกอย่างของเค้า คือ การที่ขนไม่ร่วง (ยกเว้นแต่ จะติดที่แปรงเมื่อแปรงขน) ดังนั้นเค้าจึงเหมาะมากกับการเลี้ยงในบ้าน สีของขนนั้นมีความหลากหลาย อยู่มาก เช่น ดำ ขาว เทา เทาฟ้า ครีม ช๊อคโกแลต น้ำตาล แดงส้ม โดยจะต้องเป็นสีเดียวตลอดตัว ไม่ควรจุดด่างจุดแต้มแต่อย่างใด ส่วนสูงของ standard poodle จะประมาณ 22-27 นิ้ว หนัก 45-70 ปอนด์ minature poodle สูงประมาณ 11-15 นิ้ว หนัก 14-16 ปอนด์ ส่วน toy poolde สูงไม่เกิน 10 นิ้ว หนักเพียง 5-7 ปอนด์ อายุเฉลี่ยของทั้ง 3 ชนิดจะพอ ๆ กันคือประมาณ 10-14 ปี

การดูแลและการออกกำลังกาย
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เรื่องขน ซึ่งเค้าจะไม่มีการผลัดขน แต่ผู้เป็นเจ้าของ ต้องเอาใจใส่ในการดูแลแปรงขน ทุกวัน หรือวันเว้นวัน นอกจากนี้ยังควรได้รับการตัดแต่งทรงผมทุก 3 เดือน และควรทำความสะอาด และดึงขนในหูทุก 1-2 เดือน การพาออกกำลังกายโดยการพาเดินระยะยาว ๆ ก็เพียงพอแล้ว Standard Poodle จะต้องการส่วนนี้มากกว่าเพื่อน

ลักษณะผิดปกติที่พบได้ใน Standard Poodle คือการเกิด Hip Dysplasia นอกจากนี้ ความผิดปกติด้านตาไม่ว่าจะเป็นต้อชนิดต่าง ๆ และการเกิด Retinal Atrophy ก็มักพบ สำหรับใน Minature และ Toy Poodles มักพบปัญหาด้านภูมิแพ้และปัญหาเกี่ยวกับตา การเกิดข้อเข่าเคลื่อน (Patellar Luxation) ซึ่งเกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัว ดังนั้น เมื่อสุนัขอายุมากขึ้นก็ควรได้จำกัดสารอาหาร




Bichon Frise

ต้นสายของสุนัขพันธุ์นี้ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ทราบว่า จุดกำเนิดพบที่แถบเมดิเตอเรเนียน และต่อมา ก็เป็นพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกัน ในพระราชวังทางประเทศยุโรป เป็นสุนัขที่มีความนุ่มนวล อ่อนโยน แต่ก็ขี้เล่น และสามารถเข้ากันได้ดีกับเด็กเล็ก และสัตว์ต่างชนิด เป็นสุนัขที่ค่อนข้างจะเชื่อฟัง แต่ก็อาจพบ ความลำบากบ้างในการฝึกสอนบทเรียนขั้นต้น ๆ แต่อย่างไรก็ตาม เค้าก็เหมาะมากสำหรับการเลี้ยงในเมือง

ลักษณะประจำพันธุ์
สีขนที่พบมักจะเป็นสีขาว ซึ่งอาจพบได้ว่าบริเวณใบหูนั้นอาจเจือปนสีอื่น ๆ บ้างเช่นสีน้ำตาลอ่อน หรือสีครีม ขนจะมีสองชั้นด้วยกันส่วนขนชั้นในจะหนานุ่ม ขนชั้นนอกจะค่อนข้างยาวฟู เวลาลูบไล้มักจะพบว่าขนจะฟูกลับเหมือนเดิม ดวงตากลมสีมักจะดำสนิท หูตกปรกลง ส่วนสูงประมาณ 9-12 นิ้ว น้ำหนักที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 10-14 ปอนด์ ช่วงอายุจะยืนยาวประมาณ 12-15 ปี

การดูแลและการออกกำลังกาย
การแปรงขนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในทุก ๆ วัน เพื่อป้องกันการที่ขนเป็นกระจุก การตัดแต่งขนให้เข้าทรง โดยช่าง ก็เป็นสิ่งที่ควรทำทุก ๆ 8-12 สัปดาห์ ส่วนการพาวิ่งเล่นกับเจ้าของเป็นการออกกำลังที่ดีเยี่ยม ซึ่งโดยปกติแล้วเค้าควรได้รับการพาออกกำลังโดยการเดินบ้างก็เพียงพอ

ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะเลือกซื้อสุนัขพันธุ์นี้จากคอกที่มีประวัติพ่อ - แม่พันธุ์ ที่แน่ชัด เนื่องจาก เป็นพันธุ์ที่มักพบความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมได้ เช่น epilepsy กับ patellar luxation


Bulldog

บูลด็อก หรือ อิงลิช บูลด็อก เป็นสุนัขในกลุ่มมาสทิฟฟ์ขนาดเล็ก แต่มีพละกำลังมาก เป็นสุนัขที่เชื่องและมีเสน่ห์ ใช้งานครั้งแรกกีฬาสู้วัว แต่หลังจากที่กีฬาสู้วัวถูกสั่งห้าม คนก็เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน

เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดในอยู่ในประเทศอังกฤษ เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1800

ลักษณะประจำพันธุ์
สุนัขพันธุ์นี้มีรูปร่างเตี้ย แต่มีกล้ามเนื้อที่หน้าและแข็งแรง มีขนาดหัวที่ใหญ่มาก และหน้าบริเวณปาบนจะย่นย้อย ตาจะอยู่ค่อนข้างต่ำเกือบติดจมูก จมูกสั้นมากแต่จะกว้าง ขากรรไกลล่างจะยาวกว่าขากรรไกรบน ทำให้ดูเหมือนว่าปากล่างจะยื่นออกมา บริเวณช่วงอกจะมีเนื้อที่กว้าง


Dalmatian

ดัลเมเชี่ยน มีนิสัยที่เงียบแต่สามารถตอบสนองคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว เริ่มแรกถูกใช้เป็นสุนัขเฝ้าเกวียนพ่อค้า เพื่อป้องกันขโมยหรือป้องกันการปล้นสินค้าระหว่างการเดินทาง

เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดในอยู่ในเขตดัลเมเชียในโครเอเชีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศยูโกสลาเวีย เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1400 และได้รับความนิยมมากในช่วง ปี ค.ศ. 1800

ลักษณะประจำพันธุ์
สุนัขพันธุ์นี้มีขนสีขาว มีขนเป็นจุดด่างสีดำกระจายอยู่เต็มตัว และสีดำของจุดก็จะมีขอบเขตของสีชัดเจน เมื่อตอนเล็กจะยังไม่ปรากฎจุด จะเริ่มมีจุดเมื่อขนาดโตขึ้นจนถึงโตเต็มวัยจุดก็จะเข้มจนเป็นสีดำ เป็นสุนัขที่มีขนาดค่อนข้างสูง ลักษณะขนหนา แต่จะสั้น หูค่อนข้างใหญ่และตกปรกลงมาด้านข้าง ลักษณะหางจะแหลมยาว


Tibetan Spaniel

ทิเบตัน สเปเนียล เป็นสุนัขที่ฉลาด ซื่อสัตย์ กระฉับกระเฉง และค่อนข้างจะหวงของของตัวเอง เริ่มแรกใช้ช่วยงานในพิธีกรรมทางศาสนาของธิเบต อย่างเช่น ช่วงหมุนวงล้อ

เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดในทิเบต เกิดขึ้นราว ๆ ปี ค.ศ. 1600

ลักษณะประจำพันธุ์
สุนัขพันธุ์นี้มีลักษณะคล้ายกับสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง แต่หน้าจะไม่ย่นและขนไม่ยาวเท่ากับปักกิ่ง คือจะมีหัวค่อนข้างโค้ง ขาหน้าจะสังเกตเห็นได้ว่าโค้งมาด้านหน้าเล็กน้อย


Tibetan Mastiff

ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ มีความซื่อสัตย์ กล้าหาญ ใช้งานเริ่มแรก ในการคุมฝูงปศุสัตว์ เนื่องจากมีลักษณะตัวที่ใหญ่โต น่าเกรงขาม สุนัขพันธุ์นี้จะมีการแพร่พันธุ์น้อย เนื่องจากตัวเมียจะมีระยะการเป็นสัด เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น

เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดในทิเบต เกิดขึ้นราว ๆ ปี ค.ศ. 900

ลักษณะประจำพันธุ์
สุนัขพันธุ์นี้มีขนาดใหญ่ ลักษณะขนเป็น 2 ชั้นยาวฟู โดยเฉพาะบริเวณลำคอถึงช่วงอก หูใหญ่ตกปรกมาด้านข้าง หางจะม้วนขึ้นไปอยู่บนสะโพก มีสุดสีอ่อนเป็นวงกลมเหนืนดวงตา เท้าจะใหญ่และแข็งแรงมาก


Shar Pai

ชาร์ไป่ เป็นสุนัขที่รักสันโดษ ชอบที่จะอยู่เป็นอิสระ แรกเริ่มใช้กัดสุนัขตัวอื่น ๆ เด่นตรงที่มีผิวหนังที่พับย่นตลอดทั้งลำตัว และบนใบหน้า ดูคล้ายกับขมวดคิ้วตลอดเวลา

เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน คาดว่าเกิดจากการผสมระหว่างสุนัขพันธุ์มาสทิฟฟ์กับพันธุ์นอร์ดิก เกิดขึ้นราว ๆ ปี ค.ศ. 1500

ลักษณะประจำพันธุ์
สุนัขพันธุ์นี้มีผิวหนังย่นทั้งตัว รวมถึงใบหน้าด้วย ใบหูเล็กเป็นรูปสามเหลี่ยมหูปรกลงมาด้านหน้า ตาสีเข้มเป็นรูปวงรี ปากค่อนข้างยาวและกว้าง ลำคอจะสั้น ส่วนหางจะชี้ขึ้นข้างบนแล้วโค้งเข้าหาตัว