Terrier Group คำว่า Terrier มาจากภาษาลาตินคือ Terra ซึ่งแปลว่า พื้น หรือ ดิน ดังนั้นสุนัข กลุ่มนี้จึงถูกตั้งชื่อ ตามพฤติกรรมของมัน คือ การล่าเหยื่อที่อยู่ใต้พื้นดิน หรืออยในโพรง

โดยปกติสุนัขล่าเหยื่อพันธุ์ใหญ่ มักจะถูกจัดเป็นกลุ่ม Hound ส่วน พันธุ์เล็กจะถูกจัดเป็นกลุ่ม Terrier สุนัขในกลุ่ม Terrier ทุกตัวจะมีความสามารถ ในการดมกลิ่นสูง คล่องแคล่ว มีความเป็นนักต่อสู้ และเฉลียวฉลาด ลักษณะของพันธุ์สุนัขในกลุ่มนี้มีความหลากหลาย ตั้งแต่ขาสั้น ขายาว ขนสั้น ขนยาว ขนหยิก

ในปัจจุบันนี้ความนิยมสุนัขในกลุ่มนี้มักจะเป็นสุนัขเลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อนมากกว่า เพื่อใช้ในการล่าเหยื่อ เนื่องจากความคล่องแคล่ว ฉลาดและความน่ารักของมัน นั่นเอง

Bull Terrier

เป็นพันธุ์ที่มีจะกำเนิดมาจากการเพาะพันธุ์เพื่อใช้ในการต่อสู้ในช่วงศตวรรษที่ 19 ของประเทศอังกฤษ Bull terrier เป็นสุนัขที่น่ารักและดูเหมือนจะมีพลังงานเหลือเฟืออยู่ในร่างกายที่พร้อมจะเล่นตลอดเวลา เป็นพันธุ์ที่ต้องการความรักจากเจ้าของอย่างมาก หากได้รับการทอดทิ้ง อาจทำให้เค้าพัฒนาพฤติกรรมที่ แปลกประหลาดขึ้นมาได้ เป็นพันธุ์ที่เมื่อเลี้ยงแล้ว ควรได้รับการฝึกฝนตั้งแต่เด็ก ซึ่งเค้ามักจะทำได้ดี ในทุกเรื่อง อย่าเลี้ยงดูด้วยความรุนแรงเพราะเค้าเป็นพันธุ์ที่เป็นมิตรกับทุกคนกระทั่งคนแปลกหน้า

ลักษณะประจำพันธุ์
ลักษณะของหัว เป็นส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ประจำพันธุ์ เนื่องจาก จะมีหัวที่เป็นรูปไข่ที่มีส่วนโค้งระหว่าง หน้าผากจรดจมูก ดวงตาค่อนข้างจะเล็กเมื่อเทียบสัดส่วนกับใบหน้า ใบหูมักจะตั้งตลอดเวลา ขนสั้น ไม่นุ่มมือเมื่อจับ มักจะพบสีขาวปลอดตลอดตัวโดยมีแต้มสีดำบนส่วนหัวแต่ก็สามารถพบสีอื่น ๆ ได้เช่น เป็นลายเสือน้ำตาลแดง สีนวล ความสูงจะประมาณ 21-22 นิ้ว ลำตัวตันน้ำหนักอยู่ระหว่าง 50-60 ปอนด์ มีอายุเฉลี่ยประมาณ 11-13 ปี

การดูแลและการออกกำลังกาย
การดูแลเรื่องขนไม่ยุ่งยากแม้แต่น้อยเนื่องจากต้องการการแปรงเพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น สิ่งที่เป็นที่ต้องการมากคือการพาวิ่งออกกำลังและการเล่นอย่างสนุกสนานกับเจ้าของ

สำหรับโรคหรือความผิดปกติที่ควรระวังและมักพบได้เป็นประจำสำหรับพันธุ์นี้ได้แต่ การหูหนวก การหมุนตัวเป็นวงกลมเนื่องจากความผิดปกติของระบบประสาท และโรคผิวหนัง

Boston Terrier

Boston Terrier เป็นที่รู้จักกันในนาม Little American Gentleman เนื่องจาก ตำหนิสีขน ดูเหมือนเค้าจะใส่ชุดทักซิโด้ ลักษณะที่อ่อนหวาน น่ารักน่าเอ็นดู ดูเป็นสุนัขที่มีความสุข เป็นลักษณะนิสัยที่โดดเด่นของเค้า เป็นสุนัขที่สามารถฝึกฝนสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายเนื่องจากเชื่อฟังคำสั่ง นอกจากนี้ ยังมีความเป็นมิตรสูงทั้งกับเด็ก และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ ความสุขของเค้า คือ ขอให้ได้แค่นั่ง หรือนอนแทะกระดูกปลอมอยู่ข้างตักเจ้านาย ก็เพียงพอแล้ว เค้าเป็นสุนัขที่ปรับตัวได้ง่าย ดังนั้น ไม่มีปัญหาหากจะเลี้ยงในเมืองจอแจ หรืออยู่ชานเมืองชนบท

จุดกำเนิดสายพันธุ์นี้น่าจะอยู่ราวศตวรรษที่ 19 ได้มีการเพาะข้ามระหว่างสุนัขพันธุ์ English Bull Dog กับพันธุ์ White English Terrier จนได้ Boston Terrier ซึ่งถือเป็นสุนัขพันธุ์แรกของชาวอเมริกัน

ลักษณะประจำพันธุ์
ปากสั้น ใบหน้ากลม หูตั้งเป็นเอกลักษณ์ ส่วนลักษณะขนสั้น เกรียนเรียบเป็นมันที่มีสี ดำ เทา หรือลายเสือ โดยมีแต้มสีขาวบริเวณปาก ระหว่างลูกตา อก และขา ส่วนสูงจะประมาณ 15-17 นิ้ว น้ำหนักที่เหมาะสมควรประมาณ 10-25 ปอนด์ อายุเฉลี่ยประมาณ 12-15 ปี

การดูแลและการออกกำลังกาย
การแปรงขนไม่ค่อยจำเป็นนัก การพาออกกำลังกายโดยการพาเดินบ้างก็เพียงพอแล้ว ควรระวังโรคระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากเป็นพันธุ์หน้าสั้น นอกจากนั้น ตาที่กลม โปน ก็มักจะเกิดการอักเสบ หรือเป็นต้อได้ง่าย

Mastiff

จุดกำเนิดที่แท้จริงไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่พบว่าสุนัขพันธุ์นี้ เป็นพันธุ์ที่อยู่ในทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย มาเป็นเวลากว่าพันปี ตามประวัติศาสตร์นั้น สุนัขพันธุ์นี้ได้ถูแเพาะพันธุ์เพื่อใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์ เฝ้ายาม และเพื่อการต่อสู้

สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขสังคมที่ถูกเพาะพันธุ์และฝึกฝนมาอย่างดี mastiff มีนิสัยที่อ่อนโยน รักเด็ก เข้ากันได้ง่ายกับคน และสัตว์ทั่วไป บางครั้งอาจพบความดื้อรั้น แต่อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของใช้ความ อดทน และความนุ่มนวล เค้าก็จะว่านอนสอนง่ายได้อย่างเหลือเชื่อ เค้าเข้ากันได้ดีกับคนแปลกหน้า ซึ่งก็จะเฉพาะเป็นราย ๆ ไป ในขณะเดียวกัน ก็อาจพบความหวงที่ได้อย่างเข้มเข็ง เค้าจึงมีความสามารถ ในการเฝ้ายามได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ และกำลังที่มหาศาล ดังนั้น หากพบ นิสัยความก้าวร้าวของเค้า ก็ควรรีบแก้ไขตั้งแต่ยังเป็นเด็ก โดยการเข้าโรงเรียนฝึกสอนคำสั่ง นอกจากนี้ การให้เค้ามีส่วนในกิจกรรมต่าง ๆ ของครอบครัวรวมทั้งการเอาใจใส่และให้ความสำคัญเค้ามาก ๆ ก็จะช่วยให้เค้ามีนิสัยที่อ่อนโยนได้มากขึ้น

ลักษณะประจำพันธุ์
Mastiff เป็นสุนัขที่มีขนค่อนข้างตรงและสั้น ขนชั้นในหนานุ่มและสั้นเช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีสีนวล แอพริคอต หรือสีออกสนิม สีของขนข้างปาก จมูก และใบหูจะเป็นบริเวณที่มีสีเข้มกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ขนบริเวณยอดอก อาจจะพบสีขาวปนอยู่ได้บ้าง ลักษณะของกะโหลกใหญ่ หูปรกลงมาประมาณครึ่งหนึ่งของใบหน้า ลำตัวหนาสูงประมาณ 27.5 - 33 นิ้ว หนักประมาณ 175 - 190 ปอนด์ สุนัขพันธุ์นี้อายุไม่ยืนยาวนักคือประมาณ 8 -1 0 ปีเท่านั้น

การดูแลและการออกกำลังกาย
การดูแลเรื่องขนไม่ยุ่งยากเลย เพียงต้องการการแปรงบ้างเล็กน้อยอาทิตย์ละครั้งก็พอ แต่การพาเดินเป็นสิ่งที่จำเป็น อาจพาออกกำลังโดยการเดินระยะทางยาว ๆ การพาวิ่งในสนามหญ้ากว้าง หรือการพาเล่นเกมส์โยนรับบอลก็เป็นสิ่งที่ควรทำ

สำหรับโรคหรือความผิดปกติที่ควรระวังและมักพบได้เป็นประจำสำหรับพันธุ์นี้ได้แต่ การหูหนวก การหมุนตัวเป็นวงกลมเนื่องจากความผิดปกติของระบบประสาท และโรคผิวหนัง

พันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่มีปัญหาด้านพันธุกรรมถ่ายทอดได้หลายอย่าง ดังนั้น การเลือกซื้อเค้าจากฟาร์ม หรือแหล่งที่ทราบประวัติพ่อ แม่ ปู ย่าเป็นสิ่งจำเป็น สิ่งที่ควรระวังคือลักษณะ hip หรือ elbow dysplasia (การเกิดสะโพกหรือข้อศอกเคลื่อน) ซึ่งนอกจากจะเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมแล้ว ยังมีส่วนของความสมดุลย์ของสารอาหาร และการพาออกกำลังกายประจำเป็นส่วนสำคัญ ในการเกิดโรคได



AmericanStaffordshireTerrier

อเมริกัน สแตฟฟอร์ดไชร์ เทอร์เรียร์ เป็นสุนัขที่มี ความฉลาด มุ่งมั่น ใช้งานครั้งแรกในกีฬาสู้วัว มีความแข็งแรงมาก แต่จะไม่ค่อยทำร้ายใคร
เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา กำเนิดราวไป ค.ศ. 1800 ได้จดทะเบียนเข้าร่วมสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขอเมริกัน เมื่อปี ค.ศ.1936

ลักษณะประจำพันธุ์
มีลักษณะคล้ายคลึงกับสุนัขพันธุ์อเมริกัน พิตบูล เทอร์เรียร์ มาก โดยมีลักษณะหัวกว้าง ขากรรไกรมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง มีขนสั้นเรียบ คนนิยมนำไปตัดแต่งหู หางจะเรียวสั้นเมื่อเทียบกับลำตัว

AustralianTerrier

ออสเตรเลียน เทอร์เรียร์ หรือ ทอย เทอร์เรียร์ พันธุ์ขนหัก เป็นสุนัขขี้หงุดหงิด แต่ก็มีความขยันและเชื่อฟังเจ้าของ เริ่มแรกถูกใช้งานในฟาร์ม
เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศออสเตรเลีย สืบเชื้อสายมาจากสุนัขเทอร์เรียของอังกฤษ กำเนิดราวปี ค.ศ. 1800

ลักษณะประจำพันธุ์
มีลักษณะขนสีน้ำเงิน และสีน้ำตาลอมเหลือง อาจจะพบสีแดงบ้างก็ได้ จะมีใบหูเล็ก ลำตัวจะยาวเมื่อเทียบกับส่วนสูง ขนยาวตรงลักษณะขนค่อนข้างแข็งแรง ขนรอบคอยาวคล้ายมีแผงคอ

BedlingtonTerrier

เบดลิงตัน เทอร์เรียร์ หรือ รอทเบอรี่ เทอร์เรียร์ มีสเน่ห์ และกระฉับกระเฉงว่องไว เข้มแข็ง และอดทน ดังนั้นแต่เดิมจึงใช้เพื่อการล่าตัวแบดเจอร์ และหนู
เป็นสุนัขที่เกิดจากการผสมระหว่างสุนัขเทอร์เรียร์พันธุ์ขดลวด กับสุนัขพันธุ์วิพเพต มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอังกฤษ กำเนิดราวปี ค.ศ. 1800

ลักษณะประจำพันธุ์
มีลักษณะขนบนหัวเมือนลูกแกะ และมีความนุ่มคล้ายเส้นไหม ต้องแต่งขนอย่างสม่ำเสมอ ช่วงหลังค่อนข้างโค้ง ขาหลังจะยาว เหมือนขากระต่าย

IrishTerrier

ไอริช เทอร์เรียร์ หรือ ไอริช เรด เทอร์เรียร์ เป็นสุนัขที่มีความแน่วแน่ เป็นมิตร ขยัน มีชีวิตชีวา ร่าเริง ครั้งแรกใช้งานเป็นสุนัขเฝ้ายาม
เป็นสุนัขที่เกิดจากการผสมระหว่างสุนัขเทอร์เรียร์เก่าแก่ชนิดขนสีดำปนสีแทน กับพันธุ์วีเทน เทอร์เรียร์ มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไอร์แลนด์ กำเนิดราวปี ค.ศ.1700

ลักษณะประจำพันธุ์
มีลักษณะบางอย่างคล้ายกับสุนัขพันธุ์แอร์เดล เทอร์เรียร์ แต่พันธุ์นี้จะมีรูปร่างเล็กกว่า มีขนหยาบและช่วงขายาว หน้ายาว ขากรรไกรยาวแข็งแรง ใบหูรูปตัววี โคนหูจะตั้งขึ้น แล้วก็พับหักลงมาทางด้านหน้า ลำคอยาวปานกลาง และกว้างขึ้นตรงส่วนที่ต่อกับช่วงไหล่ ช่วงอกลึกและมีกล้ามเนื้อมาก ขาหน้าตรง นิยมตัดหางให้เหลือ เพียง 3 ใน 4 ส่วน


KerryBlueTerrier

เคอร์รี บลู เทอร์เรียร์ มีความมุ่งมั่นเป็นมิตร สุนัขพันธุ์นี้ตอนเด็กจะมีขนสีดำ และจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินมาตราฐาน เมื่ออายุประมาณ 18 เดือน แต่บางตัวอาจมีขนสีดำแซมบ้าง เริ่มแรกใช้ในการล่าสัตว์ที่มารบกวนไร่นาของชาวเกษตร
เป็นสุนัขที่เกิดจากการผสมระหว่างสุนัขเทอร์เรียร์พันธุ์เวลซ์ พันธุ์เบดลิงตัน และพันธุ์ซอฟต์โค้ต มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตเคอร์รี ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไอร์แลนด์ จึงเป็นที่มาของชื่อพันธุ์ กำเนิดราวปี ค.ศ.1800

ลักษณะประจำพันธุ์
มีลักษณะหัวรูปทรงเพรียวยาว มีขากรรไกรที่แข็งแรง ใบหูรูปตัววี โคนหูชันขึ้นแล้วก็พับลงมาด้านหน้า หางจะตั้งชันขึ้น โคนหางอยู่ระดับเดียวกับหลัง ขาหน้ากลม ลักษณะขนนุ่มสลวย แต่ก็ต้องดูแลและตัดแต่งประจำ

MiniatureBullTerrier

มินิเอเจอร์ บูล เทอร์เรียร์ นิสัยเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ ถึงแม้จะมีรูปร่างเล็ก แต่ก็ดูแข็งแรง เริ่มแรกใช้กับกีฬาสู้วัว และล่าหนู
เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ กำเนิดราวปี ค.ศ.1800 แต่ความนิยมก็ลดลงมาเรื่อย ๆ

ลักษณะประจำพันธุ์
มีรูปร่างเล็กที่สุด ของพันธุ์บูลเทอร์เรียร์ หัวค่อนข้างลาดโค้งลงมาจนถึงปลายจมูก มีช่วงปากที่แข็งแรงมาก ใบหูเป็นรูปสามเหลี่ยมตั้งขึ้น ใบหูบางและเล็ก ลำคอใหญ่และแข็งแรง ลักษณะขนสั้นแนบกับลำตัว ขนมันเงางาม

NorfolkTerrier

นอร์ฟอล์ก เทอร์เรียร์ เป็นสุนัขที่ตื่นตัว และเป็นมิตร เริ่มแรกใช้งานในการล่าหนู ต่อมามีการปรับปรุงสายพันธุ์ให้ใช้งานได้ในฟาร์มในเขตอีสต์แองเกลีย ของอังกฤษ
เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ มีสายเลือดใกล้ชิดกับพันธุ์นอริช เทอร์เรียร์ แต่ใบหูจะพับไปด้านหน้า กำเนิดราวปี ค.ศ.1800

ลักษณะประจำพันธุ์
สุนัขพันธุ์นี้จะมีขนาดตัวค่อนข้างเล็ก กะโหลกค่อนข้างกลมและกว้าง ช่วงปากจะรูปทรงคล้ายลิ่มและแข็งแรง หูปรกชี้ไปด้านหน้าชิดกับแก้ม เส้นขนบริเวณหัวไหล่ค่อนข้างหยาบและยาว นิยมตัวหางสุนัขพันธุ์นี้ให้สั้น

NorwichTerrier

นอริช เทอร์เรียร์ มีนิสัยว่องไว และเป็นมิตร ใช้งานครั้งแรกในการล่าหนู สุนัขพันธุ์นี้สามารถแยกจากสุนัขพันธุ์นอร์ฟอล์ก เทอร์เรียร์ โดยสังเกตจากการเคลื่อนตัวจะว่องไวกว่า และลักษณะใบหูจะตั้งขึ้น มีความแข็งแรงมากเมื่อเทียบกับสุนัขพันธุ์อื่นที่มีขนาดเดียวกัน
เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ มีสายเลือดใกล้ชิดกับพันธุ์นอร์ฟอร์ก เทอร์เรียร์ กำเนิดราวปี ค.ศ.1800 ในปีคริสต์ศตวรรษที่ 19 ได้ใช้สุนัขพันธุ์นี้เป็นตัวนำโชคของนักศึกษามหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

ลักษณะประจำพันธุ์
สุนัขพันธุ์นี้จะมีขนาดตัวค่อนข้างเล็ก กะโหลกค่อนข้างกลมและกว้าง ใบหูตั้งและมีปลายแหลม ลำคอแข็งแรง ขาสั้นแต่แข็งแรง และเท้ากลม

ScottishTerrier

สกอตทิช เทอร์เรียร์ หรือ อเบอร์ดีน เทอร์เรียร์ มีความมุ่งมั่นและขยันขันแข็ง เริ่มแรกใช้งานเพื่อไล่สัตว์ที่หลบซ่อนบนพื้น
เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอังกฤษ กำเนิดราวปี ค.ศ.1800 ได้รับการกำหนดมาตราฐานพันธุ์เมื่อ ค.ศ.1882

ลักษณะประจำพันธุ์
สุนัขพันธุ์นี้จะมีรูปทรงของหัวที่ยาวมาก แปลกตรงที่มีขนบริเวณหน้าผากยื่นยาวออกมาเหมือนคิ้ว มีใบหูตั้ง ปลายหูเรียวแหลม จมูกใหญ่ ขนชั้นนอกจะหนาแน่นและหยาบ ขนบริเวณช่วงอกจะยาวจนลากพื้น

Staffordshire Bull Terrier

สแตฟฟอร์ดไชร์ บูล เทอร์เรียร์ มีความกล้าหาญ มุ่งมั่น และว่องไว เริ่มแรกใช้เพื่อกัดสุนัข และล่าหนู
เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เมืองสแตฟฟอร์ดไชร์ ในประเทศอังกฤษ ได้จากการผสมระหว่างพันธุ์บูลด็อก กับเทอร์เรียร์หลายพันธุ์ กำเนิดราวปี ค.ศ.1800

ลักษณะประจำพันธุ์
สุนัขพันธุ์นี้จะใบหูตั้ง หรือไม่ก็ใบหูพับครึ่ง คือ ครึ่งบนของใบหูจะงองุ้มลงมา ซี่โครงมีความยือหยุ่นดี ช่วงอกลึก