Welsh Corgi Pembroke 
แต่เดิมนั้นเป็นสุนัขที่รู้จักกันว่าเป็นพันธุ์ที่ทำงานเลี้ยงฝูงโคอย่างขยันขันแข็ง
ต่อมา เมื่อเป็นสุนัขโปรดของ สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 จึงทำให้เป็นที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก
หากตามประวัติกันแล้วสามารถพบพันธุ์นี้ได้ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่
12 ได้ถูกนำมาพัฒนาสายพันธุ์ที่เมือง Pembrokeshire ใน Wales ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสายพันธุ์
ถึงแม้จุดกำเนิดจะมาจากคนละสายพันธุ์ (ระหว่างพันธุ์ Welsh Corgi Pembroke
กับ Welsh Corgi Cardigan) แต่ทั้งสองสายก็เป็นที่นิยม และรักใคร่ของราชวงศ์อังกฤษมาโดยตลอด
ดังจะเห็นจากประวัติศาสตร์สมัยพระเจ้าจอร์จที่ 6 ได้พระราชทาน สุนัขพันธุ์นี้ให้แก่พระราชธิดาในค.ศ.1936
ลักษณะประจำพันธุ์
ส่วนสูงซึ่งน้อยนักกับขาหลังซึ่งสั้นทำให้ Corgi แลดูน่ารักน่าเอ็นดู
ส่วนหัวซึ่งมีลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอก แต่กะโหลกจะออกรีกว่า ขนบริเวณใบหน้าตั้งแต่กลางกะโหลกลงมาระหว่างตาเป็นเส้นตรงถึงจมูกมักจะมีสีขาว
ใบหูขนาดกลางตั้งตรง ตาเข้มใส จมูกดำเค้า หางสั้นมาก ลักษณะเส้นขนจะยาวปานกลาง
เหยียดตรงแข็งสีจะมีตั้งแต่ สีชา น้ำตาลอ่อน น้ำตาลแดงจนกระทั่งดำ
ลำตัวส่วนล่างมักเป็นสีขาว ส่วนการแซมของสีขาวในบริเวณลำตัวส่วนหลังนั้น
มักพบน้อยและเป็นลักษณะที่มักถูกเรียกว่า Whitelie เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องประจำพันธุ์หากจะส่งสุนัขเข้าประกวด
ทั้งตัวผู้และตัวเมียมักจะสูงไม่เกิน 12 นิ้วหนักประมาณ 24-30 ปอนด์
ในขณะที่ตัวเมียจะหนักประมาณ 22-28 ปอนด์
Welsh Corgi Pembroke เป็นพันธุ์ที่กระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา
มักไม่อยู่สุข เป็นมิตรได้ง่าย สำหรับการเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ควรเลี้ยงทั้งตัวผู้และตัวเมียไว้ด้วยกันเนื่องจากเป็นพันธุ์ที่ต้องการเพื่อนอยู่ตลอดเวลา
การดูแลและฝึกลูกสุนัข
โดยปกติแม่สุนัขมักออกลูกประมาณ 5-8 ตัวต่อครอก ลูกสุนัขจะโตเต็มที่ที่อายุ
12-15 เดือน หากคิดจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะนำมาเลี้ยงตั้งแต่เค้ายังอายุน้อย
(ประมาณไม่เกิน 2-3 เดือน) เพื่อฝึกฝนให้เค้าคุ้นเคยกับเจ้าของเนื่องจากเค้าจะเป็นสุนัขที่ขี้เหงามากจึงควรหาเลี้ยงเป็นคู่จะดีกว่า
การดูแลและการออกกำลังกาย
การดูแลขนทำได้ง่ายคือ ควรอาบน้ำอาทิตย์ละครั้ง แปรงขนด้วยแปรงที่มีปุ่มนวดหนังเพียงอาทิตย์ละ
2 ครั้ง และพาออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้งเป็นใช้ได้
|